Extremely Wicked, Shockingly Evil and Vile: เมื่อคนที่รัก...กลายเป็นฆาตรกรต่อเนื่อง(movie review)
" I could have helped save some of these girls if only I hadn’t trusted you."
มาเมาท์+ ชวนดูหนังกันอีกซักหน่อย ช่วงนี้หาหนังดูเยอะเลย ไว้เรื่องไหนอัดอั้นตันใจอยากเมาท์ต่อ ก็จะมาเมาท์ให้ฟังเรื่อยๆนะจ๊ะ...สำหรับเรื่องนี้ เป็นหนังของปีที่แล้ว ตอนนี้ก็หาดูได้ตาม Netflix เลย อันที่จริงเรื่องนี้เราไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ตาม Lilly Collin มา เราเป็นติ่งนางอยู่ห่างๆเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าค่อนข้างถูกจริตกับหนังส่วนใหญ่ที่นางเลือกเล่น...พอได้ดูเรื่องนี้ โอ๊ยปั่นป่วนมาก^^
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดัดแปลงจาก 'เรื่องจริงของฆาตรกรต่อเนื่อง' สุดโหดชาวอเมริกัน ในคราบของนักศึกษากฏหมายหนุ่ม หน้าตาดี มีวาทะศิลป์ ฉลาดและอนาคตไกลคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า เท็ด บันดี (Ted Bundy) ซึ่งสมัยนั้นคดีนี้เป็นคดีที่ดังมากๆ ผู้คน และสื่อต่างให้ความสนใจ ถึงกับขนาดถ่ายทอดการพิจารณาคดีในศาลกันเลยทีเดียว!
เพราะนอกจากจะเป็นคดีระทึกขวัญ ฆาตรกรรมต่อเนื่องหญิงสาวกว่า 30 คนด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์แล้ว ผู้ต้องหาในคดีนี้ก็เป็นคนที่ ฉลาดมากๆ ถึงขนาดร้องขอต่อศาลขอว่าความ "เป็นทนายให้ตัวเอง" จนมีคนมากมายไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเป็นคนทำ
ซึ่งชื่อเรื่องสุดแสนจะยาวนี้เป็นหนึ่งในประโยคคำพิพากษาของศาล ที่ให้ประหารชีวิต เท็ด บันดีด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า จะแปลแบบบ้านๆได้ว่า "...โหดร้ายอย่างยิ่ง ชั่วร้ายอย่างน่าขวัญผวา และ เลวทราม..."
แน่นอนว่า พอได้ชื่อว่าเป็นหนังที่ดัดแปลงจากเรื่องราวของฆาตรกร ก็มักจะถูกเดา ไปก่อนเลยว่า มันจะต้องมีฉากฆาตกรรมเลือดสาดไหลเจิ่งนอง ระทึกขวัญมีเสียงกรีดร้องสยดสยอง บลาๆ แต่บอกไว้เลยว่าเรื่องนี้ไม่มีนะ เป็นการนำเสนอในมุมที่ต่างออกไปเลย
ส่วนใหญ่เรื่องนี้จะโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของ เท็ด บันดี กับคนรัก ที่ชื่อว่า ลิซ (Liz) และการพิจารณาคดีความ ในศาล เอาจริงๆเราว่ามันเป็นเหมือนกับเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของลิซแหละ ดูเผินๆก็เลยอาจกลายเป็นว่าเค้าสร้างหนังมาเพื่อทำให้ฆาตรกรดูดีเกินจริงไปหรือเปล่า?
สำหรับเรา ถ้ามองตามหลักความจริง...มันก็อาจเป็นเรื่องปกตินะ ถ้าเราเป็นคนรักของเขา เขาก็คงต้องมีมุมที่ดีขนาดที่ว่า เราจะไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้ ถ้ามองในมุมของคนที่รักกัน ก็เลยจะเห็นมุมที่ดูดีกว่าปกติ มากกว่าสายตาคนนอกที่มีการนำไปชั่งเปรียบเทียบกับสิ่งเลวร้ายที่เขาทำอยู่แล้วแหละ... ถึงแม้ว่าลึกๆเธอก็สงสัยในความดีที่เขาแสดงออกมาแค่ไหนก็ตาม
โดยหลักแล้วเราจึงมองว่า หนังเรื่องนี้ไม่ใช่การเข้าข้างฆาตกรนะ แต่เป็นการนำเสนออีกแง่มุมหนึ่งในเรื่องของความสัมพันธ์กับคนรัก ความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งที่วันหนึ่งค้นพบว่า คนที่ตัวเองรัก และคิดว่าเขาดีมาโดยตลอด ดีที่สุดแล้ว...กลับก็กลายเป็นอสูรกายที่เลวร้ายที่สุด!...เธอจะต้องอยู่กับสิ่งเหล่านี้ยังไง?
ซึ่งแน่อยู่แล้วว่านี่คือ "ภาพยนตร์" น่ะนะ มันต้องมีการเขียนบท บิดเรื่องบ้างเพื่อการนำเสนอประเด็นบางอย่างและเพื่อความน่าสนใจในเรื่องราว ก็อาจจะไม่ได้ตรงกับความเป็นจริง 100 เปอร์เซ็นต์(ไม่งั้นก็จะเป็นสารคดีไป) ณ จุดนี้เราว่าก็เป็นหน้าที่คนดูด้วยนะที่จะต้องเข้าใจเรื่องนี้ เปิดใจที่จะเสพสื่อ รับสาส์นที่ทีมสร้างเขาอยากจะเล่า มากกว่าการมุ่งที่จะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง หรือแต่งเพียงอย่างเดียว
หนังจะเริ่มเล่าตั้งแต่วันที่ เท็ด (แสดงโดย Zac Efron) เจอกับ ลิซ (แสดงโดย Lilly Collin)ครั้งแรกแล้วตกหลุมรักกัน ซึ่งลิซเนี่ยก็มีลูกสาวมาก่อนแล้ว ยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลย เราว่าสิ่งที่ทำให้ลิซแพ้ทาง ก็คือความรักที่เท็ดมีให้กับลูกนางนี้แหละ คือมันก็ยากนะที่จะไม่ชอบผู้ชายที่ ดูอ่อนโยน สุภาพ รับยอมรับผู้หญิงที่มีลูกมาก่อนแล้ว แล้วลูกก็แฮปปี้เวลาที่ได้อยู่กับเขามากๆ ฉลาด แถมยังดูมีอนาคต
แต่แล้ววันนึงก็เริ่มมีการพบว่าคนที่เธอรักกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เริ่มจากคดีเล็กที่ดูเหมือนเป็นการเข้าใจผิดธรรมดาจนลึกเข้าๆ กลายเป็นคดีฆาตรกรรมสยองขวัญเป็นที่่โด่งดัง ซึ่งมีการย้ายไปคุกรัฐต่างๆขึ้นโรงขึ้นศาล มีหลักฐานประกอบคดีมากมาย แต่เท็ดก็ยังคงแสดงตัวเป็นคนดีที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา พยายามติดต่อลิซ แสดงความจริงใจเสมอ ถึงแม้ว่าลิซจะใจพัง พยายามบอกตัวเองให้เชื่อ แต่ลึกๆนางก็เหมือนจะพอเดาได้อยู่แหละ...แล้วเขาก็สู้ไปจนถึงสิ้นสุดคดี...โดยศาลตัดสินให้มีการประหารชีวิต!
เราคิดว่ามันน่าทึ่งนะที่ ทั้งๆที่เราก็โดนสปอยล์มาโดยเรื่องย่ออยู่แล้ว รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรกว่าคนๆนี้คือฆาตรกรที่แท้จริง แต่หนังก็ทำให้เรากลับไป "รู้สึก" เหมือนคนในยุคนั้นสมัยที่คดียังดังอยู่ อยากจะเชื่อว่าเขาเป็น "ผู้บริสุทธิ์" เพราะไม่ว่าจะเป็น หน้าตา วิธีการพูด บุคลิก และความฉลาด ของเขา มันพาให้เราหลงเชื่อได้ไม่ยากเลย ยังแอบลุ้นอยู่เล็กๆว่า เขาจะไม่ใช่ฆาตรกร! ซึ่ง Zec ก็แสดงได้ดีมาก จนน่าขนลุก ไม่น่าเชื่อว่า Zecจะมาไกลได้ขนาดนี้ คือเขาโน้มน้าวให้คนดูเชื่อได้แทบสนิทใจไปเลยอ่ะ...(ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดความจริงจะต้องเปิดเผยก็เถอะ)
ฉากที่เราชอบที่สุด(สปอยล์) แล้วรู้สึกว่ามัน impact มากๆ...... คือตอนที่ลิซ เข้าไปหาเท็ดที่คุก แล้วถามแบบจริงจังมากๆว่า เป็นคนทำจริงๆหรือเปล่า??? ช่วยปลดปล่อยนางจากเรื่องค้างคาใจนี้ซะที ให้มันจบๆกันไป เราว่ามันเป็นเหมือนเป็นความรู้สึกที่ค้างคาในใจลิซมานานแล้วแหละ เดินหน้าต่อไม่ได้ซะที ซึ่งนางก็ไม่กล้าถามเพราะพยายามจะเชื่อว่าเขาไม่ได้ทำมาโดยตลอด
ซึ่งแน่นอนว่า เท็ด ก็ปฏิเสธเพราะพี่แกก็เล่นไม้นี้มาทั้งชีวิตแล้ว แกก็ยังคงดูรัก และอ่อนโยนกับลิซเหมือนเดิมแหละ แต่นางก็เหมือนไม่ไหวแล้วไง พยายามคาดคั้น ให้บอกความจริงๆมา อยากจะจบเรื่องนี้ซะที ปล่อยกันไปซะที...จนในที่สุดพี่แกก็บอกความจริง ด้วยการเขียนบนกระจกจ้า...ลิซนางก็สติแตกไปเลย!!!
ฉากนี้คือทั้งสองคนแสดงโคตรดี!!! มันเป็น react ที่มีความหลากหลายทางอารมณ์มาก อยากจะให้ลองไปดู มันดีมากจริงๆ
...ท้ายที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็จบลงด้วยความจริง ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นยังไง คนที่ยังอยู่ ก็ต้องเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป..
ถึงแม้การกระทำของฆาตรกรคนนี้จะเลวร้าย ขนาดที่เขาไม่ควรค่าพอต่อการนำมาสร้างเป็นหนังให้เป็นที่จดจำกันอีก แต่เราก็ต้องยอมรับว่าเรื่องราวของเขาที่ถูกนำเสนอนี้ก็มีแง่มุมที่ทำให้เราได้ลองตั้งคำถามจริงๆจังๆกับชีวิตว่า
'มันจริงแค่ไหนที่ความชั่วร้ายจะมาในรูปของคนร้ายเท่านั้น จะเป็นไปได้ไหมถ้าจะมีความดีที่ซ่อนอยู่ในความเลวร้ายนั้นบ้าง?'
เราควรจะเลิกเชื่อความดีที่มาจากคนเลว และละเว้นความเลวที่มาในรูปแบบคนดี เสมอไปหรือเปล่า?
หนังเรื่องนี้ทำให้เราได้ลองคิดถึงในมุมที่กลับกัน ในการใช้เหตุผล รู้สึกผิดชอบชั่วดีของคน ที่กำหนดความชอบธรรมให้แต่ละอย่างไม่เท่ากัน เราได้เห็นตรรกะที่บิดเบี้ยว โลกที่ดูเหมือนจะกลับที่กลับทางของผู้ชายคนนึง ซึ่งตามหาความชอบธรรมในสิ่งเลวร้ายของตัวเอง!
...และมันทำให้เราแอบสงสัยเล็กๆในใจว่า...ภายใต้ความโหดเหี้ยมและเลวร้ายที่สุดของใครสักคน...เสี้ยวหนึ่งเขาจะสามารถมีหัวใจสำหรับรักใครได้จริงๆหรือเปล่า?
"...ฆาตรกรไม่ได้ออกล่าในตอนกลางคืน
พร้อมเขี้ยวยาวและน้ำลายไหลจากคาง
ผู้คนไม่ได้นึกเลยว่ามันอาจจะมีฆาตรกรปะปนอยู่ในพวกเขา
คนที่เขาชอบ รัก อยู่ด้วย ทำงานด้วย และชื่นชม
ในวันถัดมาเขาก็อาจจะกลายเป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุดเท่าที่จะจิตนาการถึง..."
คำพูดของเท็ด บันดี ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ (มีในช่วงเครดิตหนัง)
"People don't realize that murderers
do not come out in the dark
with long teeth and saliva dripping off
their chin.
People don't realize that there are killers among them.
People they liked, loved, lived with, work with and admired
could the
next day turn out to be the most demonic people imaginable"
- Ted Bundy Tapes
ปล. 1 สำหรับใครที่อยากรู้ว่าส่วนไหนเป็นเรื่องจริง ส่วนไหนแต่ง ลองไปอ่านในนี้มีเฉลยอยู่
ปล. 2 ใครที่สนใจเรื่องราวของ "ลิซ" ตัวจริง ก็ไปอ่านในนี้ได้
ปัจจุบันเธอเป็นนักเขียนที่ออกหนังสือมาหลายเล่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องราวของคนเท็ด ชื่อหนังสือว่า
"The Phantom Prince: My Life with Ted Bundy"
ข้อมูล
https://baylorlariat.com/2019/02/04/the-ted-bundy-tapes-blurs-lines-between-murderers-and-the-world/
https://www.theringer.com/tv/2019/1/29/18201482/netflix-conversations-with-a-killer-ted-bundy-tapes-true-crime-documentary
ขอบคุณภาพจาก
https://letterboxd.com/film/extremely-wicked-shockingly-evil-and-vile/
https://www.filmsfatale.com/blog/2019/5/4/extremely-wicked-shockingly-evil-and-vile
https://stulovesfilm.com/2019/05/04/extremely-wicked-shockingly-evil-and-vile/
https://www.cinemablend.com/news/2471919/extremely-wicked-shockingly-evil-and-vile-writer-explains-why-the-netflix-movie-has-no-actual-murder
https://pics.filmaffinity.com/Extremely_Wicked_Shockingly_Evil_and_Vile-552363065-large.jpg
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น