Big Fish & Begonia : เจ้าปลาใหญ่ และไห่ถาง (Movie Review & Analysis)

 

' เจ้าปลาใหญ่ และไห่ถาง '

Bigfish & Begonia หรือในชื่อภาษาจีนว่า  '海棠' ( ต้าอวี๋ ไห่ถาง) เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นสัญชาติจีนที่เข้าฉาย(ในจีน)ในปี 2016 โดยได้รับผลตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี กวาดรายได้ และรางวัลไปมากมาย แต่ก่อนหน้าที่จะประสบความสำเร็จขนาดนี้ก็ล้มลุกคลุกคลานอยู่พอสมควร 

 


แรกเริ่มเดิมที อนิเมชั่นชื่อเรื่องเดียวกันนี้เคยออกสู่สายตาผู้ชมชาวจีนมาแล้วในรูปแบบภาพยนตร์ขนาดสั้นในปี 2004 โดยเป็นอนิเมชั่น 2 มิติที่สร้างด้วยโปรแกรม Flash  หลังจากนั้นก็ผ่านกระบวนการพัฒนาบท ประกอบกับแรงบันดาลใจมากมายของผู้สร้าง เริ่มและพับเก็บโปรเจกต์สลับกันไปในช่วงระหว่างกำลังประคับประคองบริษัท และหาเงินทุนในการสร้าง 

 

และแล้วเวลาผ่านไปราวๆ12 ปีเมื่อทุกอย่างลงตัวเสร็จสิ้น Bigfish & Begonia เวอร์ชั่นนี้จึงได้เปิดตัวสู่ผู้ชมที่เฝ้ารอชมอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีทุนสร้าง 30 ล้านหยวน รายได้ 565 ล้วนหยวน

 

อนิเมชั่นเรื่องนี้เรียกได้ว่ามีการใส่ความเป็นจีนอยู่ในทุกๆอณูเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น การแต่งกายแบบจีน, ตึกดินแบบมณฑลฝูเจี้ยน, ขลุ่ยดินเผา, ไพ่นกกระจอก  รวมไปถึงแนวคิดหลักของเรื่องที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก 'คัมภีร์เต๋า-อิสระจร โดย จวงจื่อ' (庄子·逍遥游),   ' ซาน ไห่ จิง  คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล' (山海)และ บันทึกตำนานเทพเจ้าจีน (搜神) รวมไปถึง ตำนานพระแม่หนี่ว์วาอุดรูรั่วฟ้า

 โดยฉากหลังของเรื่องราวทั้งหมดในอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นการนำเสนอตามความเชื่อโบราณที่ว่า “คน” มาจาก “ปลา” (ปัจจุบันในทางวิทยาศาสตร์ก็มีทฤษฏีวิวัฒนาการหนึ่ง ที่กล่าวไว้ว่าคนวิวัฒนาการมาจากปลาเช่นกัน) 

 

มีการเวียนว่ายตายเกิดระหว่าง การเป็นคน และปลา มีผสมผสานกับปรัชญาเต๋าที่ให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ทุกสรรพสิ่งมีความเป็นหนึ่งเดียว ชีวิตเป็นเหมือนการว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร จากฝั่งหนึ่ง ไปยังอีกฝั่งหนึ่งมีพบและมีจาก ทุกสิ่งแปรเปลี่ยนได้ไม่มีความแน่นอน

 


เหตุการณ์เกิดขึ้นในเรื่อง เป็นเรื่องราวระหว่างโลกมนุษย์ และโลกที่ผืนฟ้าและผืนน้ำบรรจบกัน ไม่ใช่โลกของทั้ง คน หรือ เทพแต่เป็นโลกของ สิ่งอื่นซึ่งเป็นผู้ดูแลกฎธรรมชาติ มีสัตว์ประหลาดต่างๆ รวมถึงพลังที่เหนือมนุษย์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิด

 

“...ชีวิต และความตายเป็นโชคชะตา สืบเนื่องและหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันดั่งทิวาและราตรี นี่เป็นลิขิตของฟ้า มีบางสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจเปลี่ยนแปลง ทุกสิ่งล้วนดำเนินไปตามธรรมชาติ...”

- จวงจื่อ ฉบับสมบูรณ์ (อิสรจร) แปลโดย สุรัติ ปรีชาธรรม

  ตัวละครหลัก

ตัวละครหลักของเรื่องนี้ มี 3 คนด้วยกัน คือ 'ชุน' –นางเอก , 'คุน'(คนที่นางเอกรัก) และ 'ชิว'(คนที่รักนางเอก) ซึ่งชื่อของตัวละครก็มาจากตำนานในคัมภีร์เต๋า อิสรจร  อีกทั้งยังมีนัยสื่อถึงเรื่องราวในอนิเมชั่นอีกด้วย

 


...แต่ครั้งโบราณเนิ่นนานมาแล้ว ยังมีต้นไม้ใหญ่ชื่อ ชุน  มีฤดูใบไม้ผลิ ( chūn) นานถึงแปดพันปี และฤดูใบไม้ร่วง ( qiū )นานถึงแปดพันปี...’

- จวงจื่อ ฉบับสมบูรณ์ (อิสรจร) แปลโดย สุรัติ ปรีชาธรรม

 

'ชุน' (-ฤดูใบไม้ผลิ/ ดอกไม้ที่บานฤดูใบไม้ผลิ)


เป็นเด็กสาวที่ดูเหมือนจะมีบุคลิก 2 ด้าน คือร่าเริงสดใสในบางเวลา และเงียบขรึมเย็นชาในบางครั้ง
มีพลังแห่งฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ต้นไม้ออกดอกผลิบาน มีหน้าที่ดูแลต้นไห่ถัง หลังจากพิธีเปลี่ยนผ่านในอายุ 16 ปี ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปตลอดกาล

 


'ชิว'(  ฤดูใบไม้ร่วง )  

เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่วัยเด็กของชุน รักและหวังดีกับชุนเสมอ ไม่ว่าชุนจะทำอะไรเขาก็พร้อมเสียสละและสนับสนุนเธอ บุคลิกร่าเริงแจ่มใส แต่ก็จริงจัง และฉลาดมาก มีพลังแห่งฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งบางครั้งก็เป็นเหมือนการทำงานกลุ่มกับชุนในเรื่องการดูแลต้นไม้  ชิวไม่เคยกลัวอะไร แต่สิ่งเดียวที่เขากลัวคือการเห็นคนที่รักต้องเป็นทุกข์ 

 

บางคนอาจมองว่าชิวเป็น “พระรอง” เพราะนางเอกไม่ได้รักเกินกว่าเพื่อน/พี่ชาย  แต่ในมุมมองของเรารู้สึกว่าบทของชิวเด่นมากพอๆกับนางเอก และเชื่อว่าเป็นตัวละครที่หลายคนตกหลุมรักและนึกถึงเขาเป็นคนแรกที่พูดถึงอนิเมชั่นเรื่องนี้

 

...ณ ทะเลลึกแดนเหนือ มีพญามัจฉาชื่อ คุนร่างใหญ่โตไม่รู้กี่พันลี้ คุนกลายร่างเป็นพญานก ชื่อ เผิงแผ่นหลังของเผิงมโหฬารไม่รู้กี่พันลี้ ยามกระพือปีกเหินสู่เวลา ปีกแผ่กว้างราวแผ่นเมฆปกคลุมฟ้า เมื่อผืนน้ำแห่งท้องสมุทรเริ่มขยับไหว พญาเผิงก็บ่ายหน้า มุ่งสู่ทะเลสาบสวรรค์แห่งแดนใต้...

- จวงจื่อ ฉบับสมบูรณ์ (อิสรจร) แปลโดย สุรัติ ปรีชาธรรม

 'คุน' (鲲-ชื่อของพญามัจฉาในตำนาน)

แรกเริ่มเดิมที คุน เป็นตัวละครที่เป็นมนุษย์ผู้ชายที่ไม่ได้มีการกล่าวถึงว่าเขาชื่ออะไร แต่รักทะเล และรักสัตว์ มีบ้านอยู่บนภูเขาที่ติดกับทะเล อยู่กับน้องสาวตัวน้อย แต่ก็มีเหตุให้เขาต้องไปช่วยโลมาสีแดงที่ติดกับดักจนตัวเองตายไป  แล้วไปเกิดใหม่ในอีกโลกหนึ่งเป็นโลมาสีแดงที่ชุนเป็นคนเลี้ยง และตั้งชื่อให้ว่า คุน

 ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวละครหลักในการเล่าเรื่อง มีอยู่ในทั้งโปสเตอร์ ชื่อเรื่อง หรือแทบในทุกๆฉาก แต่ส่วนตัวมองว่าบทที่แสดงความเป็นตัวของคุน จริงๆมีแค่ช่วงที่เป็นมนุษย์ หลังจากที่เป็นปลาแล้วทุกสิ่งทุกอย่างแทบจะบอกเล่าผ่านคนรอบตัวของเขาเท่านั้น จึงคิดว่า คุนเป็นตัวละครหลักในแง่ที่เป็นตัวแปรให้เรื่องราวดำเนินไป แต่ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินเรื่องด้วยตัวเองอย่างชัดเจนนัก
 

เรื่องราว...

เรื่องราวเริ่มต้นจาก 'ชุน' นางเอกในวัยชรานั่งเล่าเรื่องราวสมัยสาวๆให้ฟัง ว่า 'มนุษย์' นั้นมาจาก "ปลา' มีการเวียนว่ายตายเกิด โดยโลกที่เธอเคยอยู่นั้นเป็นโลกที่คู่ขนานกันไปกับโลกมนุษย์ เป็นโลกที่ดูแลกฎของธรรมชาติ เป็นส่วนที่ผืนฟ้าและผืนน้ำบรรจบกัน พวกเธอไม่ใช่ทั้ง 'คน' หรือว่า 'เทพ' แต่เรียกว่าเป็น 'สิ่งอื่น'(其他人)นอกเหนือจากนั้น

ย้อนกลับไปสมัยที่ชุนอายุ 16 ปี ในโลกของ 'สิ่งอื่น' จะมีพิธีเปลี่ยนผ่าน เปิดผืนฟ้าให้เหล่าชาวสิ่งอื่นอายุ 16 ปีได้ขึ้นไปบนโลกมนุษย์เพื่อเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาได้ควบคุมกฎ โดยไปในรูปของปลาโลมาสีแดง เป็นเวลา 7 วัน มีข้อกำหนดไว้ว่าห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมนุษย์

 

ชุนที่กลายร่างเป็นโลมาแดงขึ้นมาโลกมนุษย์แล้วแล้วก็ความสุขกับการแหวกว่ายในทะเล  แล้วเธอก็ได้เจอ 'ชายหนุ่มรักทะเล' คนหนึ่ง(อาจจะเป็นชาวประมงหรืออะไรทำนองนั้น) เขาอยู่กับน้องสาวตัวน้อย เหมือนมีความรู้สึกดีๆบางอย่างที่ทำให้เธอว่ายน้ำตามไปดูเขาใกล้ๆ

 

ทุกอย่างเหมือนจะดีและราบรื่น แต่แล้ววันสุดท้ายของการอยู่บนโลกมนุษย์ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อชุนว่ายน้ำไปติดตาข่ายกับดักปลาบริเวณวังน้ำวน ชายหนุ่มรักทะเลก็ได้ไปช่วยชีวิตเธอไว้ แต่กลับกลายเป็นเขาเองที่หลุดเข้าไปในนั้น!

 

ชุนหาเขาจนเจอแต่ก็พบว่าเขาได้ตายไปแล้ว จึงทำได้แค่เก็บขลุ่ยดินเผาที่เป็นของเขา แล้วเดินทางกลับ โลกสิ่งอื่นที่จากมา

 

ด้วยความโศกเศร้าที่ตนเองเป็นต้นเหตุให้มีคนตาย ชุนก็ได้เป่าขลุ่ยที่เก็บมาจากชายหนุ่มผู้ช่วยชีวิต แต่เสียงขลุ่ยนั้นก็ทำให้รูปปั้นสิงห์ที่อยู่ข้างๆรับรู้ได้ว่าเป็นสิ่งที่แปลกปลอมมาจากโลกมนุษย์ รูปปั้นสิงห์จึงมอบเมล็ดไม้ที่เป็นเหมือนกระดิ่งให้เธอแล้วนัดหมาย เพื่อเดินทางไปพบกับผู้คุมวิญญาณ

 


ชุนตัดสินใจแลกครึ่งชีวิตของตนเอง กับการให้ชายหนุ่มรักทะเลคนนั้นได้กลับมามีชีวิต  ผู้คุมวิญญาณได้มอบวิญญาณของชายหนุ่มในรูปของโลมาตัวน้อยแก่ชุน ให้เธอดูแลเขาจนกว่าจะเติบโตและกลับสู่โลกมนุษย์ได้ 

 


ชิวเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของชุน เขาจะคอยตามดูแลชุนอยู่เสมอ จนได้รู้ว่าตอนนี้ชุนกำลังเลี้ยงโลมาตัวน้อยอยู่ เขาจึงเสนอให้ตั้งชื่อมันว่า คุนเป็นชื่อพญามัจฉาตามตำนานเก่าแก่ ซึ่งชุนก็เห็นดีตามนั้น

 

การกระทำของชุนถือเป็นการฝืนกฎธรรมชาติ ทำให้โลกที่เธออยู่เกิดอาเพศ และเริ่มมีภัยพิบัติเกิดขึ้น ผู้คนในชุมชนเริ่มออกตามล่าหาคุน ซึ่งถือเป็นสิ่งแปลกปลอมจากโลกมนุษย์ชุนและชิวจึงต้องพาคุนไปซ่อนตัวในที่ต่างๆ จนในที่สุดชิวก็ได้ล่วงรู้ความลับข้อตกลงแลกครึ่งชีวิตของชุน!

 


ด้วยความที่ชิวรักชุนมาก อยากให้เธอได้มีความสุขและใช้ชีวิตกับคุนตามที่เธอหวัง ชิวจึงทำพิธีเปิดผืนฟ้าด้วยตัวเอง และไปทำข้อตกลงแลกทั้งชีวิตของเขากับผู้คุมวิญญาณเพื่อต่อชีวิตให้ชุน  และเพื่อให้เธอและคุนจะสามารถไปโลกมนุษย์ด้วยกันได้ในที่สุด ส่วนตัวเขา เป็นผู้รับหน้าที่ผู้คุมวิญญาณคนต่อไป ซึ่งต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยวไปตลอดกาล

 


 

ความรัก

แม้ว่าเรื่องโดยรวมจะนำเสนอให้ความรักระหว่างชุนและคุน(เจ้าปลาใหญ่)เป็นประเด็นหลักของเรื่อง แต่อันที่จริงแล้วเราคิดว่าเรื่องนี้นำเสนอความรัก ในหลากหลายรูปแบบนอกเหนือจากความรักของหนุ่มสาว ไม่ว่าจะเป็นความรักของคนในครอบครัว  หรือความรักความเมตตาที่มีต่อสัตว์โลก ที่ถึงแม้จะเป็นรักเช่นเดียวกัน แต่กลับแสดงออกได้แตกต่างกัน

 

 ส่วนตัวแล้วมองว่าความรักระหว่างชุนกันคุน  ไม่ได้นำเสนอถึงความรักระหว่างหนุ่มสาวอย่างชัดเจนมากนัก อาจจะเป็นแค่เสี้ยวนาทีแรกที่ชุนได้เจอกับคุนในตอนที่เขายังเป็นมนุษย์ แต่เรื่องราวหลังจากนั้นดูจะเป็นเหมือนความรู้สึกของการต้องตอบแทน-ชดใช้ในสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้เสียมากกว่า รวมๆแล้วจึงดูเป็นความสัมพันธ์ที่มีความผูกพันเป็นสาเหตุหลักมากกว่า

 

และกลับกลายเป็นว่าการนำเสนอความรักระหว่างหนุ่มสาวของเรื่องนี้ชัดที่สุดคือความรักของชิวที่มีให้กับชุน ที่คอยสนับสนุนและอยู่ข้างเสมอ เสียสละให้ได้แม้แต่ทั้งชีวิตของตัวเองจึงเป็นเรื่องไม่ยากที่จะทำให้รู้สึกว่าชิวเป็นตัวละครที่หลายคนจะรัก และรู้สึกว่าเขาคู่ควรได้รับสิ่งที่ดีมากกว่านี้

 ฉันไม่เคยกลัวใคร ไม่กลัวฟ้าดิน จะทำอะไรก็ได้ตามใจ แต่สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดในโลกนี้ คือการที่เห็นคนที่รักต้องทุกข์ใจ...

-ชิว (Bigfish & Begonia)

  

สิ่งที่น่าสนใจ

ส่วนตัวแล้วเราดูอนิเมชั่นเรื่องนี้ราวๆ 2 รอบ รอบแรกคือดูแบบไม่ได้อ่านอะไรมาก่อนไม่รู้อะไรเลย สิ่งแรกที่รู้สึกคือภาพสวยมากๆ ละเอียดชนิดที่รู้สึกว่าแค่ดูภาพก็คุ้มค่ามากแล้ว 

 

บทพูดในเรื่องแม้จะมีไม่มาก  แต่ทุกๆประโยคที่มีคือการบอกเล่าเรื่องราวที่มีผลต่อเส้นเรื่อง  ส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องผ่านภาพและการกระทำของตัวละครเป็นหลัก เผินๆแล้วในการดูรอบแรก รู้สึกว่าพล็อตเรื่องเข้าใจง่ายและดูเพลิน

 


แต่สัมผัสได้เลยว่ามีการแทรกตำนาน และสัญลักษณ์ในเชิงปรัชญาที่ลึกซึ้งอยู่ค่อนข้างมาก  คิดว่าถ้าเป็นคนจีนที่มีพื้นฐานความรู้ส่วนนี้อยู่แล้วอาจจะอินได้มากไม่ยากเลย ขนาดที่เราไม่ค่อยรู้ตำนานอะไรมากก็ยังว่ารู้สึกชอบมาก 

 

แม้จะมีบางส่วนที่รู้สึกว่ายังขาดๆเกินๆในแง่ของการเล่าเรื่อง และความสัมพันธ์ของตัวละครที่คิดว่าจะไปสุดได้มากกว่านี้ แต่โดยรวมก็รู้สึกประทับใจมาก ก็เลยไปหาอ่านเพิ่มเติมดูสักหน่อย

 

เมื่อได้ดูรอบที่ 2 แม้ว่าบางอย่างอาจเข้าใจไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจมาแชร์กันอ่านสนุกๆเช่นกัน

 ต้นไห่ถาง VS ต้นบีโกเนีย

นื่องจากชื่อเรื่อง 海棠’ ( ต้าอวี๋ =ปลาใหญ่,ไห่ถาง=ต้นไห่ถาง) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Bigfish & Begonia  เลยมาทำความรู้จักกับต้นไม้ชนิดนี้กันหน่อยเพราะอาจจะมีการสับสนกันบ้าง

 

อันที่จริงแล้ว “ต้นบีโกเนีย” (Begonia )ในภาษาอังกฤษ ถือเป็นชื่อพ้องที่สามารถหมายถึงต้นไม้ได้ถึง 2 ชนิด คือ ต้นบีโกเนียทีเราคุ้นเคยที่เป็นไม้ล้มลุก มักจะใช้ประดับตกแต่งตามมุมห้อง มีชื่อเรียกภาษาจีนว่า 秋海棠 (ชิว ไห่ถาง) เป็นพรรณไม้ในสกุล Begonia

 

และ ต้นไห่ถาง 海棠 (ไห่ถาง) หรือ Chinese Flowering Crabapple  มีชื่อพ้องที่อาจเรียกอีกชื่อได้ว่า Begonia เช่นกัน เป็นพรรณไม้ในสกุล Malus เป็นไม้ยืนต้นมักใช้ทำเป็นไม้บอนไซ หรือปลูกประดับสวน 

 

ส่วนตัวคิดว่าในเรื่องนี้จะหมายถึงต้นไห่ถางอย่างหลังมากกว่า เป็นต้นบีโกเนียที่เราคุ้นเคยเพราะนอกจากจะเป็นไม้ประจำถิ่นของจีน ได้รับความนิยมปลูกกันมากในจีนตั้งแต่โบราณ มีความหมายในเรื่องของความสง่างาม งดงามได้ชื่อว่าเป็น ความงามของชาติ ()

 

นอกจากนี้ในเรื่องก็ยังมีการซ่อนสัญลักษณ์บางอย่างเอาไว้สื่อถึงตัวละครด้วยเช่นกัน  คือออกดอกในฤดูใบไม้ผลิ( ชุน )  ติดผลในฤดูใบไม้ร่วง (ชิว )

 

ตึกดิน   (土楼ถู่โหลว)

ในเรื่องสถานที่พักของชาว สิ่งอื่นเป็นตึกที่ดูเหมือนเป็นห้องแถว เป็นรูปวงกลม เรียกว่า ถู่โหลวหรือตึกดิน สถาปัตยกรรมขึ้นชื่อของเมืองฝูเจี้ยน สร้างด้วยไม้และเสริมด้วยกำแพงดินซึ่งได้รับรางวัลมรดกโลกแล้วด้วย เป็นทั้งพื้นที่ชุมชน และป้อมปราการ 


ถึงแม้ว่าในเรื่องจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเมืองฝูเจี้ยน แต่ในคาดว่าน่าจะเป็นเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชุมชน มีความสามัคคี ตามปรัชญาจีน เนื่องจากในแต่ละถู่โหลวผู้ที่อาศัยอยู่ในนั้นจะมีนามสกุลเดียวกัน

 

นอกจากนี้ในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรม มีความสอดคล้องกับแบบจำลอง 'Wu Fu' (五服制) ในบริบทของปรัชญาขงจื๊อ ที่มีการแบ่งโลกออกเป็น วงกลม 5 วง จากจุดศูนย์กลางไปยังส่วนรอบนอก ที่จะประกอบด้วยด้วยเมืองหลวงของจักรวรรดิที่จุดศูนย์กลาง และระดับของอารยธรรมและความเจริญรุ่งเรืองจะลดหลั่นลงจากศูนย์กลางออกไปด้านนอก

 ขลุ่ยดินเผา (Ceramic Ocarina)

เครื่องดนตรีของ คุนในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์ ถือว่าเป็นเครื่องดนตรีโบราณที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในราชสำนักและใช้เป็นพิธีกรรมในสมัยราชวงศ์โจว

ซึ่งอาจเป็นการสื่อความหมายในเชิงสัญลักษณ์ในปรัชญาเต๋า สื่อถึงการเรียกหา ตามความปรารถนา ซึ่งอาจเป็นเหตุผลต่อมาในเรื่องที่ทำให้รูปปั้นสิงห์รับรู้เรื่องราวจากเสียงขลุ่ยที่ชุนเล่นหลังจากที่เพิ่งกลับมาจากโลกมนุษย์

  ดนตรีของแผ่นดิน คือเสียงจากบรรดาโพรงว่างเปล่าเหล่านั้น ดนตรีของมนุษย์ คือเสียงขลุ่ยและเครื่องเป่าต่างๆ แต่ขอถามว่าดนตรีของสวรรค์นั้นเป็นเช่นไร คือการเป่าลงในสรรพสิ่งด้วยอาการต่างๆเพื่อว่าแต่ละสิ่งแต่ละอย่างจะได้พบหนทางของตน ต่างพบพานในสิ่งที่ปรารถนา…’

- จวงจื่อ ฉบับสมบูรณ์ (อิสรจร) แปลโดย สุรัติ ปรีชาธรรม

 

ฉากที่ประทับใจ

อันที่จริงมีหลายฉากมากๆที่ละเอียดและน่าประทับใจ แต่ซีนนี้เป็นซีนที่เรารู้สึกส่วนตัวว่า ทัชใจมาก เป็นเพียงฉากเรียบๆง่ายๆ หลังจากที่เกิดเรื่องราวมากมาย ชิว อยู่กับชุนเพื่อที่จะส่งคุน ไปยังโลกมนุษย์  ตอนนั้นชุนยังไม่รู้ว่า ชิวได้แลกชีวิตของเขาเพื่อจะได้ส่งเธอไปอยู่โลกมนุษย์พร้อมกับคุน  เป็นฉากที่ทั้งสองนอนหันหลังให้กัน ชุนกล่าวขอบคุณที่ ชิวได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างให้กับเธอ เขาไม่พูดอะไรได้แต่นอนร้องไห้อย่างเงียบๆ

 


ถึงแม้ว่าเราจะไปหาอ่านนู่นนี่พอสมควร เพราะรู้สึกสนุกที่จะได้เรียนรู้เรื่องราวเหล่านั้น แต่ส่วนตัวก็ยังคิดว่าในการเสพงานศิลปะใดๆ ไม่ว่าจะเข้าใจมาก หรือน้อย สิ่งสำคัญที่สุดอาจไม่ใช่การจำเป็นต้องตีความในทุกๆสัญลักษณ์ที่มี ต่างคน ก็ต่างประสบการณ์และการรับรู้   ขอเพียงสนุกในการรับชมและสัมผัสถึงความรู้สึกที่งานศิลปะนั้นสื่อออกมาก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว

 

เราคิดว่าหนังที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคนอาจไม่จำเป็นต้องมีองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ  รายได้ถล่มทลาย หรือมีเนื้อหาที่ยิ่งใหญ่พร้อมกู้โลก  หากแต่เป็นเรื่องราวที่จะอยู่ในใจ และตัวละครเหล่านั้นยังคงโลดแล่นอยู่ในความทรงจำของผู้ชมเสมอในทุกครั้งที่ได้นึกถึง 

 

ซึ่งสำหรับเราแล้ว 'ชิว' เป็นตัวละครตัวนั้น...

 

ฉันจะเป็นสายลมและฝนในโลกมนุษย์ เคียงข้างเธอ”

-ชิว (Bigfish & Begonia)
 

ขอบคุณภาพจาก

- 海棠 Weibo

- https://www.4399dmw.com/guomanpindao/420525.html

- https://zh.wikipedia.org/wiki/%E5%B1%B1%E6%B5%B7%E7%BB%8F

- https://zhuanlan.zhihu.com/p/144778443

- https://wenhui.whb.cn/zhuzhan/yingshi/20180411/194864.html

 

อ้างอิง

- จวงจื่อ ฉบับสมบูรณ์ (อิสรจร) แปลโดย สุรัติ ปรีชาธรรม

- มัจฉา ปักษี ผีเสื้อ อุปลักษณ์และการผดุงชีวิตในปรัชญาจวงจื่อ

- ซาน ไห่ จิง คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล โดย ซุน เจี้ยน คุน

- http://www.planet789.com/2013/04/fujian-tulou.html

 - https://baike.baidu.com/item/%E5%A4%A7%E9%B1%BC%E6%B5%B7 %E6%A3%A0/9248052

- https://thinkglobalheritage.wordpress.com/2018/10/19/tulou-and-big-fish-begonia-how-cultural-products-could-impact-heritage-sites/

- https://www.awn.com/animationworld/new-milestone-chinese-feature-animation-big-fish-begonia-arrives-north-america

-https://dspace.library.uvic.ca/bitstream/handle/1828/14571/Wang_

Chenxi_MA_2022.pdf?sequence=1

- https://dsignsomething.com/2022/09/17/tulou-housing/

 

 

 

 

 


 

ความคิดเห็น

  1. club gaming pg ค่ายเกมสล็อตออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมจากผีพนันทั่วทั้งโลก ด้วยประสิทธิภาพของตัวเกมที่ตามมาตรฐานสากล pg slot อีกทั้งในหัวข้อการจัดเก็บข้อมูลของผู้รับบริการ

    ตอบลบ
  2. slot pg สล็อตออนไลน์ ค่าย พีจี ฝาก-ถอน ไม่มีอย่างน้อย เร็วทันใจด้วยระบบอัตโนมัติ สมัคร PGSLOT ก็สามารถสร้างรายได้ กับ PGSLOT พอดี pg-slot.game สล็อตเว็บไซต์ตรงชั้น 1

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม