“ควี” ตัวร้าย ที่ถูกออกแบบคาแรกเตอร์มาดีจนอยากเล่าต่อ

 

ห่างหายจากการดูซีรีย์เกาหลีมาพักใหญ่มากๆ และเพิ่งมีโอกาสได้ดู ซีรีย์เรื่อง Scholar Who Walks The Night หรือชื่อไทยว่า บัณฑิตรัตติกาล (4ปีมาแล้ว!!)ด้วยความบังเอิญ แบบเจอตัวอย่างเด้งมาในยูทูปอะไรประมาณนั้น และสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจดูคือ ตัวร้ายที่มีพลังบางอย่างน่าสนใจจนอยากรู้เรื่องราวในเรื่องเลยล่ะ

สารภาพว่าเราไม่ใช่สาวกซีรีย์เกาหลี อันที่จริงเราดูได้หมดถ้าอยู่ในช่วงที่อยากดู55 แถมเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็น type ที่จะทำให้เรากระตือรือร้นดูมากมายดูอะไรในตอนนี้(ถ้าสมัยเป็นติ่ง twilight ก็อาจจะใช่555) พล็อตโดยรวมถือว่าดูเพลิน สนุกดีไม่ได้ว้าวมาก แต่สิ่งที่ impact เรามากๆกลับเป็นบทบาทของตัวร้ายและความสัมพันธ์ของเขากับคนรอบข้าง!!

ถือว่าเป็นเรื่องแรกในชีวิตที่เรากดข้ามไปดูฉากตัวร้ายและตั้งใจดูมากๆ(แย่งซีนสุดๆ) อยากบอกว่าทุกซีนที่พี่แกออกมานี่เป็นอะไรที่สะกดจิตมากๆ ในซีนๆนึง เหมือนอารมณ์ของตัวละครจะมีความหลากหลายเลเยอร์มาก นักแสดง(อีซูฮยอก)เก่งมากๆ มันเป็นงานละเอียดมากจริงๆและเท่าที่สืบมาก็คือจากการเล่นบทนี้ก็ทำให้พี่แก ได้รับรางวัลกันเลยทีเดียว

เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องแนวแฟนตาซีที่มีการผสมผสานเรื่องราวของ แวมไพร์เข้ากับประวัติศาสตร์เกาหลี สมัยโชซอน ก็เป็นการทะเลาะกันชนิดมหากาพย์ของ แวมไพร์ฝ่ายดีก็คือพระเอก และแวมไพร์ฝ่ายร้ายก็คือ ควีซึ่งก็ตั้งตนเหมือนเป็นผู้อาวุโสประจำราชสำนักอยู่มาหลายร้อยปีอะไรประมาณนั้น มีวังส่วนตัวอยู่ใต้ดิน คอยแทรกแซงการเมืองและราชวงศ์สร้างความเดือดร้อนนั่นนี่

ทีนี้ก็จะมีพวกขุนนางที่ยอมอยู่ข้างควีเพื่ออำนาจ และพวกที่ทำเหมือนตีเนียนตามน้ำแต่ลึกๆก็หาทางกำจัดควีอยู่ แล้วมันก็จะมีบันทึกอันนึงซึ่งเป็นแผนลับที่จะฆ่าควีได้ ก็จะเป็นการตาหา ตามล่า หนี ต่อสู้ไปทั้งเรื่อง ก็จะมีการวางกลลวง หลอกนั่นนี่ระหว่างพระเอกและควีชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร(แต่ส่วนใหญ่ก็เหมือนควีจะล้ำหน้าไปก้าวนึงเสมอๆ) ในส่วนของเรื่องย่อเราคิดว่าไปหาอ่านเอาได้ตามเว็บต่างๆน่าจะเล่าละเอียดอยู่ ในส่วนของเราขอโฟกัสแค่ที่ควีแล้วกัน

ถ้าจะพูดเอาเข้าใจง่าย เราว่าควี เป็นเหมือนตัวแทนของคนที่ต้องการอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในแบบที่ไม่มีสิ้นสุด ที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยากจะยิ่งใหญ่แค่ไหน รู้แต่อยากได้มากขึ้นมากขึ้นอีก อาจเพราะเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะมีอยู่ได้ เหมือนเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่ทำให้อยู่ต่อไปอะไรประมาณนั้น

เราคิดว่า ควี เป็นตัวร้ายที่ไม่ได้แค่ดูคูลๆ เท่ๆที่มีพลังเหนือพระเอกจนขาดลอยเฉยๆ แต่กลับมีเรื่องราว อารมณ์ และความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นที่ค่อนข้างมีมิติ และหลายเลเยอร์มากๆ ซึ่งนักแสดงก็แสดงได้ดี อินเนอร์แรง ชนิดที่ลืมไปเลยว่าเรื่องนี้เรามีพระเอกอยู่555

.

ตัวร้ายที่น่าสนใจที่สุดในมุมมองของเรา เราคิดว่าไม่ใช่แค่เป็นตัวละครที่เร่งปฏิกิริยาให้กับพระเอก-นางเอก ชัดเจนกันมากขึ้น หรือเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวให้เข้มข้นขึ้น แต่เป็นเหมือนตัวละครที่ทำให้เราได้ลองใช้ใจมองเรื่องราวในอีกรูปแบบหนึ่ง ต่อให้มันเป็นตัวละครจากเรื่องสมมติก็ตาม

เราคิดว่าตัวร้ายไม่ควรแค่ร้ายให้คนดู หรือคนอ่านเกลียดเฉยๆ เพราะการเกลียดเพียงอย่างเดียวมันจะทำให้เรารำคาญเรื่องราวต่างๆจากตัวละครนั้น บางทีมันก็ไม่ได้ทำให้เรื่องสนุกขึ้น เราชอบการที่ตัวละครทำให้เราได้เข้าใจตัวเขาจริงๆ หรือลองพยายามมองในมุมของเขาดูบ้าง ลองอีกมุมที่ไม่ใช่การอยู่แค่ข้างพระเอกบ้างลองคิดในมุมตัวร้ายดูบ้าง มันทำให้เรื่องราวดูมีมิติมากขึ้น

การมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง หรือความรู้สึกที่เราจับต้องได้จริงๆ มันทำให้เราได้รู้จักเรียนรู้ที่จะมองคนในอีกมุมมองหนึ่งถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่เห็นด้วย ซึ่งนั่นเลยเป็นสิ่งที่ทำให้เราคิดว่า ตัวร้ายจากเรื่องนี้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ไม่รู้ว่าด้วยบทหรือผู้กำกับ หรือตัวนักแสดงเองล่ะนะ แต่เมื่อผลงานมันออกมาเรารู้สึกได้เลยว่า นี่เป็นตัวร้ายที่ดีมากต่อการศึกษาคาแรกเตอร์ตัวละครเด่นสักตัวหนึ่ง เพราะมันดูกลมและมีมิติมาก ซึ่งเราบอกได้เลยว่าเขาไม่ใช่แค่ตัวร้าย แต่คือตัวเมนของเรื่องนี้

ในสายตาของคนดู เรามองว่า ควีเป็นตัวร้ายที่ไม่ได้พยายามจะหาเหตุผลให้สิ่งเลวร้ายที่ตัวเองทำกลายเป็นสิ่งที่ดี เขารู้แหละว่าสิ่งนี้ไม่ดี รู้หมดว่าใครเข้าหาเขาเพื่อหวังอะไร ใครดี ใครไม่ดี คนประเภทไหนที่เขาควรจะไว้ใจได้ แต่เรียกได้ว่าเขา เลือกที่จะทำสิ่ง เลวร้ายด้วยความต้องการของเขาเองทั้งหมด เพื่ออำนาจ ความยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานอะไรก็ตามแต่ที่เขาพยายามเฝ้าบอกตัวเองเพื่อมาเยียวยาความรู้สึกไม่มั่นคงภายในบางอย่างในใจของเขา

ควีทำให้เรารู้สึกได้ว่าในความน่ากลัว ร้ายกาจที่เขาแสดงออกนั้นในส่วนลึกของมันได้ซ่อนความเหงา ความโดดเดี่ยว ความอิจฉา และความไม่เข้าใจในโลกเอาไว้มากมาย ซึ่งก็จะมีตัวละครนึงที่เป็นส่วนมา เป็นตัวเร่งให้เขาได้แสดงมุมนี้ให้เราเห็นชัดยิ่งขึ้นก็คือ ลูกสาวเสนาบดีที่ถูกพ่อส่งตัวให้มารับใช้ควีตั้งแต่เด็กเพื่ออำนาจของตัวเอง ชื่อว่า เฮรยองเรียกได้ว่านางเป็นคู่จิ้นที่คู่ควรของควีเลย เพราะบทนางก็มีเลเยอร์เยอะไม่แพ้เขาเลยจริงๆ

เฮรยองอีกตัวละครหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ควี เพราะนางเดาใจได้ยากมาก คนดูอย่างเราต้องคิดหลายตลบมากว่าจริงๆแล้วนางคิดอะไรอยู่ จริงๆแล้วนางเป็นคนยังไง เรื่องไหนจริง หรือแกล้งทำ ซึ่งนักแสดง(คิม โซ อึน)ก็ทำได้ดีมากนะ เพราะงานส่วนใหญ่ที่เราเห็นนางมักจะได้บทใสๆน่ารักๆยิ้มสวย พอได้มาแสดงบทที่ดูร้ายๆลึกๆขึ้นมาหน่อยก็น่าสนใจมากๆ

อันที่จริงแล้ว เฮรยองไม่ได้เป็นแค่ลูกสาวเสนาบดี แต่ยังมีหน้าตาเหมือนกับคนรักเก่าที่ตายไปของพระเอก ก็เลยอาจเป็นเหตุผลแรกที่ทำให้ควีเลี้ยงเฮรยองไว้โดยสัญญาว่าจะไม่กัดให้เป็นแวมไพร์ไปด้วย เพื่อที่จะได้ใช้ให้ไปล่อพระเอกให้ออกจากที่ซ่อนตัว แต่เลี้ยงไปเลี้ยงมาพอโตเป็นสาวนิสัยกลับดันไปคล้ายกับแฟนเก่าของควีซะนี่ ควีก็เลยรู้สึกชอบเฮรยองเป็นพิเศษหน่อยละ

ซึ่งในทุกๆซีน ที่ควี กับเฮรยอ ออกมา เราว่าเคมีดีมากนะ เอาอยู่เลยล่ะ ถึงแม้มันจะเป็นความสัมพันธ์ที่ดูประหลาดอธิบายยากมากเลย ระหว่างการพึ่งพากันเพื่อหาผลประโยชน์ร่วมกัน ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของแบบนายบ่าว ความผูกพัน หรือความรัก แต่ความรู้สึกประหลาดๆนี้ ควีก็ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าสายตาที่มองกับเฮรยอง ดูจะพิเศษเกินคนอื่นไป และกลับกลายเป็นว่าคนที่ดูยากที่สุดคือเฮรยองซะงั้น

เฮรยองทำงานรับใช้เป็นสายให้ควีมาตั้งแต่เด็ก ช่วงแรกเลยทำให้เราคิดว่านางก็อยู่พวกควีแหละ แต่เมื่อเรื่องเล่าไปเรื่อยๆ ในความดูเย็นชา และทะเยอทะยานหาอำนาจเป็นเหมือนเกราะที่เธอได้สร้างเพื่อป้องกันตัวเอง ลึกๆแล้วเฮรยองก็มีปมเจ็บปวด ที่พ่อเป็นขุนนางกระหายอำนาจยอมทำทุกอย่างเพื่ออำนาจ ส่งตัวเธอให้รับใช้ควีทำให้แม่เธอต้องเป็นบ้า มันเลยเป็นสิ่งที่ทำให้เฮรยองอยากได้อำนาจที่ยิ่งใหญ่มากกว่าพ่อ แท้จริงแล้วเธออาจไม่ได้เลือกอยู่ข้างใครก็ได้แต่เลือกทำทุกวิถีทางเพื่อตัวเอง?

ควี เป็นคนที่แทรกแทรงการเมืองได้เสมอจากการตั้งตัวเป็นผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่นั้น เขาก็เลยสนองนีดให้ เฮรยองได้มีอำนาจเป็น พระชายา”(ต่อมาได้เป็นมเหสี) แต่งงานกับรัชทายาท ตามที่เธอต้องการ แต่กลายเป็นว่าจากตอนแรกที่เฮรยองดูจะสนใจแค่อำนาจ แต่พอเจอรัชทายาทดีดูเป็นบอยแบนด์ละมุน เข้าใจเธอ ก็มีอ่อนไหวเป็นธรรมดา ตอนนี้ก็เลยไม่รู้แล้วล่ะว่าใจเฮรยองไปทางไหนกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือควีก็เริ่มชัดเจนขึ้นแล้วว่า จริงๆเขาอยากให้เฮรยองมาอยู่ข้างๆเขามากกว่า

ในตอนท้ายๆ ควี แสดงให้เราได้เห็นหลายครั้งว่า จริงๆแล้ว เฮรยอง เป็นคนที่พิเศษเกินคนอื่นสำหรับเขา ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกอะไรแต่ ความสัมพันธ์ประหลาดๆนี้ เขาก็อยากให้เธอยังคงมาอยู่ข้างๆเขา ไม่ว่าจะเป็นการถามให้เธอมาเป็นผู้หญิงของเขาผู้ที่ดูจะมีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าพระราชาแทนการเป็นมเหสีในแบบของมนุษย์ หรือการที่เขาเข้าไปงานเลี้ยงแต่งงานของเธอทั้งๆที่ก็เดาได้อยู่แล้วว่าจะมีการลอบทำร้าย และถึงแม้ว่าเขาจะพอเดาใจเฮรยองได้ว่าเธอเองก็เริมแอนเอียงไปทางรัชทายาทผู้เป็นสามีบ้างแล้ว แต่ก็ได้แต่เหน็บแนมนั่นนี่ ก็ไม่คิดจะทำร้ายอะไรเธอจริงๆเลย

และสิ่งที่เราคิดว่าเป็นเหมือนสัญญาณที่บอกความรู้สึกของควี ให้ชัดเจนที่สุดโดยปราศจากคำพูดคือ เขาเป็นแวมไพร์ที่อยู่มาหลายร้อยปีแล้ว ตั้งตนเหนือพระราชาแทรกแทรงราชสำนักอยู่ตั้งนานแล้วอ่ะ ไม่เคยคิดจะอยากเป็นกษัตริย์เลย แต่วันนึงเด็กผู้หญิงที่คอยดูแลเขาได้ขึ้นเป็นมเหสี จู่ๆเขาก็เกิดอยากเป็นกษัตริย์เลยซะงั้น!...

แต่สุดท้ายก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาพลั้งมือฆ่าเฮรยองไปโดยไม่ตั้งใจ! เป็นซีนที่เราคิดว่าเราชอบที่สุด เป็นเหมือนเหตุการณ์ที่เฉลยความรู้สึกทั้งหมดของควี ที่มีต่อเฮรยองเลย ไม่ว่าจะเป็น ความผูกพัน ความรัก ความเหงา ความโดดเดียว ผิดหวัง และเสียใจ ซีนนี้เป็นอะไรที่น้อยแต่มากจริงๆ สุดท้ายเราก็ได้รู้ว่า ภายใต้ความโหดร้ายราวสัตว์ป่า ความจริงแล้วควีคิดยังไงกับเฮรยอง

ซึ่งในการสูญเสียครั้งนี้เอง ก็ทำให้เขามองเห็นจุดจบของตัวเอง เห็นความว่างเปล่าในสิ่งที่เขากระหายอยากได้มันมาตลอด และเห็นความสวยงามของพระอาทิตย์ ที่เขาไม่เคยแม้แต่จะมองมันตลอดมาในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

บางทีทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ ที่เขาคิดว่าต้องการ อาจเป็นเพียงแค่การหาเหตุผลสำหรับการมีชีวิตอยู่อันโดดเดียวนี้

บางที แม้แต่คนที่เลวร้ายที่สุด ก็ยังคงต้องการความรักจากใครสักคนที่จะเป็นแรงให้เขายังอยากมีชีวิตอยู่ แม้จะเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งโลกก็ตามที

ปล. เราได้ทำวิดีโอ เป็น MV สั้นๆสรุปเรื่องราวของสองคนนี้ไว้ พร้อมซับไทย(ที่เราแปลจากอังกฤษอีกที)ใครสนใจก็ลองไปดูได้นะ (อินสุด55)

https://www.youtube.com/watch?v=XPjelc-MaUU

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม