ให้แรงบันดาลใจนั้น…ส่งต่อเราไป ในทางที่อยากจะเดิน
คิดว่าอยากจะพูดถึง(ยาวๆ)สักหน่อย เพราะเป็นสิ่งที่เราค่อนข้างอินอยู่พักใหญ่ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้ติดตามรายการแข่งขัน ค้นหานักร้องไอดอลของจีน เพื่อไปเดบิ้วต์เป็นวง 9 คน ก็คือรายการ ‘Youth with you 3’ ที่ใครหลายๆคนรู้จักเพราะว่า มี “ลิซ่า” Blackpink มาเป็นเมนเทอร์นั่นเอง
เริ่มแรกเราดูแค่เพราะว่า เราชอบเอ็นเนอร์จีของ การพยายามที่จะทำตามฝันของเด็กๆที่เข้าแข่งขัน เรานับถือในความอดทน และตั้งใจของพวกเขามากๆ ทำให้เราอยากที่จะตั้งใจทำในสิ่งที่เราอยากจะทำบ้าง เหมือนเป็นการเติมไฟให้ตัวเองอยู่เล็กๆ
และถึงแม้ว่าในซีซั่นนี้ รายการจะต้องจบลงอย่างใจพังกันมากมาย แต่อย่างน้อยๆเราก็ดีใจที่ได้มาเห็นการต่อสู้และการเติบโตของเด็กๆที่มีความฝัน และเชื่อมั่นว่าในอนาคต พวกเขาก็จะสามารถมีหนทางเป็นของตัวเองได้ อย่างที่เขาตั้งใจมาตลอด
และสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเด็กฝึกที่เรารู้สึกชื่นชมเขามากเป็นพิเศษ และค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะกลายเป็นแรงบันดาลใจอันมหาศาลให้กับคนจำนวนมากได้อีกในอนาคต คือเด็กฝึกที่มีชื่อว่า “หลัวอีโจว” (ข้อความหลังจากนี้อาจจะเป็นการอวยทั้งหมด 555)
ก่อนอื่นบอกตามตรงว่า การตามไอดอล สำหรับเราเป็นเรื่องไกลตัวมาตลอด เพราะเราไม่ค่อยอยากมีความผูกพันในลักษณะนี้เลย เรารู้สึกว่าถ้าเราอยากจะติดตามศิลปินสักคน เราอยากจะตามแค่ผลงานของเขา มองแค่ในมุมนั้นมุมเดียวก็พอ เอาจริงๆก็คือเรากลัวความผูกพัน555 และความคาดหวังต่างๆที่มันเกินความควบคุมอะไรประมาณนั้น เราก็เลยไม่เคยได้ติดตามศิลปินคนไหนแบบเป็นจริงเป็นจังเลย จะชื่นชมแค่ผิวเผินมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหนือการควบคุมไปแล้วจริงๆ555 เราได้กลายเป็น "ติ่ง" ไปแล้วอย่างสมบูรณ์^^ จากการ "โดนตก" แบบงงๆรู้ตัวอีกทีก็คือมาไกลมากแล้ว
ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าหลัวอีโจวไม่ใช่คนที่มีหน้าตาหล่อเหลาแบบสะดุดตามากๆ หรือมีบุคลิกโดดเด่นจนต้องปักเมนเชียร์คนนี้ในครั้งแรกที่เห็น แต่สิ่งที่ทำให้เขาค่อยๆฉายแสงและเปล่งประกายออกมาเรื่อยๆ จนมีคนค่อยๆจดจำเขาได้ และตั้งใจสนับสนุนเขาด้วยความจริงใจ ก็คือความสามารถ นิสัยและทัศนคติของเขา ที่เปล่งประกายมันออกมาจากภายใน
ทุกการแสดงของหลัวอีโจว แม้ว่าจะดีมากแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยหยุดการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม ไม่เคยหยุดเรียนรู้ไม่ว่าจะอยู่บนเวที หรือจะแค่ในห้องซ้อมธรรมดา เขาสามารถถ่ายทอดความรู้สึก และเรื่องราวในเพลงนั้นๆออกมาได้อย่างจริงใจ และชัดเจน สิ่งที่สำคัญคือ แม้ว่าความสามารถของเขาจะโดดเด่น ดึงดูดสายตาของผู้ชมเสมอ แต่ก็มีการแบ่งงานในกลุ่มกันดีมากจนเอ็นเนอร์จีของทุกคนเท่าเทียมกัน แล้วก็น่าดูไปหมดทุกอย่างเลย
โอเค ที่นี้เราจะเล่าถึงโมเมนต์ที่เราเริ่มจำหลัวอีโจวได้แล้วกัน...อันที่จริงจะถือว่าเราจำเขาได้ตั้งแต่สเตจแรก Tiger เลยก็ได้ แต่แค่จำหน้าไม่ได้(555 จำได้แต่จำหน้าไม่ได้คืออะไร?) อย่างที่บอกไปว่าหลัวอีโจวไม่ใช่คนที่ทำให้เราจำได้จากหน้าตาในครั้งแรก ไทป์เราจะไปทางคมเข้มอะไรเทือกนั้นมากกว่า ในสเตจแรกเราจำได้แค่ ทีมชุดแดงที่มาเต้นเพลงนี้ มีคนนึงในทีมที่เทพมากๆ ตอนกระโดดตัวลอยตีลังกากลับหัว แถมมีโชว์เดี่ยวเป็นระบำจีนที่เอียงตัวหมุน 45องศาโดยที่ไม่ล้ม!!! เราจำได้แค่นี้
จนมาถึงสเตจที่ 2 มีการให้เด็กฝึกฟอร์มทีมขึ้นมา ได้มาดูสเตจ"Kick it" ตอนที่ลิซ่ากำลังสอนให้ปรับท่าบางท่าอยู่ มีเด็กฝึกคนนึงที่ดูเด่นออกมาอย่างชัดเจนเลย จากการตั้งใจฟังแล้วก็ทำท่าตามที่สอนอย่างตั้งใจ แล้วทำออกมาได้สวยมากด้วย ตอนรายการขึ้นชื่อเขาขึ้นมา เราเลยจำได้ว่าเด็กฝึกที่เต้นสวยๆคนนี้ชื่อ "Luoyizhou" (แต่ก็ยังจำไม่ได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับสเตจ Tiger และระบำจีน555) เป็นเพลงที่เท่มากๆ และการแสดงบนสเตจก็เด่นมากๆ เราจำได้เลยว่าเขาใส่เสื้อที่มีสายยาวๆ ^^
สเตจที่ 3 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรายุ่งกับงานไม่ค่อยได้ดูรายการเท่าไหร่ ตามแค่บางตอนก็พอรู้ว่าสเตจนี้เด็กฝึกที่ชื่อ "Louyizhou" ไม่ได้เต้น ก็เลยแอบผิดหวังนิดหน่อย ประกอบกับแนวเพลงในสเตจนั้นก็ไม่ค่อยจะเป็นทางที่เราฟังเท่าไหร่ ก็ไม่ได้สนใจอะไรในช่วงนั้นมากมีอย่างอื่นต้องทำมากมาย จนกระทั้งมาถึงสเตจที่เป็นเพลงธีมรายการ
ตอนนั้นเริ่มมี Focus cam ออกมาให้ดูใน youtube แล้วซึ่งเรายังไม่รู้หรอกว่าใครได้เป็นเซ็นเตอร์ แต่เราเดาไว้ว่าน่าจะเป็นน้องเด็กฝึกอีกคนที่ดูบุคลิกดูเป็นไอดอลมากๆ จนกระทั่งวิดีโอเพลงธีมปล่อยออกมาเราถึงได้รู้ว่าเด็กฝึกที่ชื่อ "หลัวอีโจว" ได้เป็นเซ็นเตอร์เพลงธีม!! ตอนนั้นงงนิดหน่อยแต่ก็เห็นว่าเหมาะสมดีเพราะน้องก็เก่งมากจริงๆ ที่งงก็คือสงสัยว่ามันใช่คนเดียวกันกับตอนเต้นสเตจ Kick it เหรอ หน้าน้องดูเปลี่ยนไปมากเลย555 ดูหล่อขึ้นมีออร่าขึ้นแบบชัดมากๆ แต่ตอนนั้นก็แค่ชื่นชมห่างๆยังไม่ได้ "ถูกตก" อะไรจริงจัง ก็รู้สึกว่าเก่งดีนะคนนี้
จนมาถึงช่วง "จัดอันดับคัดคนออกครั้งแรก" น่าจะถือเป็นจุดพลิกผันในชีวิตเรา555 ตอนนั้นคือแอบตกใจเหมือนกันที่หลัวอีโจวได้อันดับที่ 14 เพราะน้องดูน่าจะอยู่ในระดับท็อปๆได้เลย ซึ่งเราประทับใจในตอนที่ PD ประกาศอันดับให้อีโจวออกไปข้างหน้า เพื่อนๆทุกคนก็ยืนปรบมือให้เกียรติเขา พร้อมกับความงงงวย ตัวน้องเองก็ยังดูงงๆเหมือนกัน555 แต่หันกลับไปคำนับให้เพื่อนๆที่ยืนขึ้นให้กับเขา ก่อนจะเดินออกไปหน้าเวที อาจจะดูเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแต่ทำให้เรายิ่งรู้สึกว่า เด็กคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ความสามารถนะ เขาคู่ควรกับความรักที่เพื่อนๆมีให้ด้วย
ตอนที่อีโจวออกไปพูดเรื่องการเปลี่ยนหน้าจอวอลเปอร์ในมือเป็นรูปเวทีที่เขาชอบในทุกๆวัน ฝันที่จะได้เข้าใกล้เวทีพวกนั้น ทำให้เรารู้สึกสะท้อนใจเหมือนกันนะ ในวัยเท่าเขา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกล้าฝัน ซึ่งเขาไม่ได้แค่ฝันแต่เขาพยายามที่จะไปให้ถึงเวทีนั้นได้จริงๆ เขากล้าที่จะพูดเป้าหมายของตัวเอง เปิดเผยความฝันนั้นให้ใครต่อใครรู้ สู้ และพยายามเพื่อมันอย่างจริงๆจัง ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเรานับถือใจของเด็กผู้ชายคนนี้มากๆ
แล้วก็มาถึงตอนไคลแม็กซ์ที่โด่งดัง! หลังจากที่ประกาศอันดับไปเรื่อยๆจนถึงอันดับต้นๆ หลัวอีโจวได้ตอบกลับเพื่อนของเขาคนหนึ่งว่า
"...งั้นเรามาใช้สเตจพูดกัน"
เป็นคำตอบที่เรารู้สึกได้ชัดมากว่าเขามีวุฒิภาวะสูงมาก ทีแรกเราไม่คิดว่าเขาจะตอบอะไรด้วยซำ้เพราะเท่าที่ดูผ่านมา อีโจวดูเป็นคนที่สงบมากคนนึง ออกจะเป็น "เด็กลุง" ในบางเวลาด้วยซำ้ เราแทบจะไม่เห็นมุมที่ดูแข่งขันในตัวเขาเลย แต่เมื่อเขาพูดกลับไปจริงๆเรากลับรู้สึกว่า มันก็เป็นคำพูดที่โอเคที่จะพูดนะ มันไม่ได้เป็นการทำร้ายใคร เหมือนเป็นการคุยการแฟร์ๆ ในแบบของการแข่งขันที่ใช้นำ้ใจนักกีฬา เป็นจุดที่เราตัดสินใจได้ว่าเด็กคนนี้สมควรจะได้เดบิวต์นะ เขาสมควรได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ...หลังจากนั้นเราก็ไปหาวิธีโหวต และตัดสินใจโหวตให้เด็กฝึกคนหนึ่งในรายการเซอร์ไวเวิล เป็นครั้งแรกในชีวิตของเรา555
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการ ตั้งหน้าตั้งตาคอยทุกๆสเตจ ใจจดใจจ่อกับทุกๆการออกมาของเด็กฝึกที่มีชื่อว่า "หลัวอีโจว"
ถ้าจะให้เลือกคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเรามากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เราก็ขอเลือกให้ หลัวอีโจว เป็นคนๆนั้นที่ไม่ถือเป็นการพูดเกินจริงเลยนะ พลังบวก ความสดใส และความอ่อนโยน แต่เข้มแข็งของเขาสามารถ ส่งต่อไปถึงคนรอบข้างได้อย่างชัดเจน มิตรภาพที่ดี ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ท่ามกลางการแข่งขันที่แสนจะเข้มข้น
ถึงแม้ว่าฝันของเราจะไม่ใช่การเป็นไอดอลอย่างเขา แต่ความจริงใจ ตั้งใจและพยายามในการสร้างสรรค์งานศิลปะของเขามันคือสิ่งสากล ที่ทุกๆคนสามารถรับรู้ได้ด้วยตา และรู้สึกมันได้ด้วยใจอย่างชัดเจน เราเชื่อมั่นว่าเขากำลัง ‘ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ’ ในการสร้างสรรค์งานที่มีคุณค่า และจะเป็น “ศิลปินที่ดี” อย่างที่เขาตั้งใจไว้ ได้อย่างมั่นคง
เราดีใจที่อย่างน้อยๆ การได้ติดตามชีวิตของศิลปินสักคนนึง ได้เห็นการเติบโตในทุกก้าวที่เขาได้พยายาม ทำให้เราได้กลับมามีแรงในการอยากลองทำสิ่งต่างๆที่เราอยากจะทำอีกครั้ง อยากที่จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์งานของตัวเองอยู่เช่นเดียวกัน เราคิดว่า นั่นอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับการได้มาเป็น “แฟนคลับ” เลยนะ
ท้ายที่สุดแล้วทุกคนก็มีหนทางเป็นของตัวเอง…ให้แรงบันดาลใจนั้น…ส่งต่อเราทุกคนไป ในทางที่เราอยากจะเดิน ^^
ปล.ขอบคุณภาพจาก twitter เรา save มาจากหลายแหล่งมากๆขอบคุณที่เผยแพร่ภาพสวยๆให้เราได้ชื่นชมกันนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น