ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
เรื่องสั้น "คำหมาย" โดย ปัญจาลี
(คำอธิบายก่อนอ่าน)
- ทัวริ่งเทส (Turing test) คือ การทดสอบความสามารถในการคิด เช่นเดียวกับมนุษย์ ในหุ่นยนต์ ซึ่งยังไม่มีใครสาม ารถสร้างหุ่นยนต์ที่สอบผ่าน ได้เลย(ค.ศ.2016)
-ไครโอนิกส์ (Cryonics) คือ การแช่แข็งร่างกายมนุษย์ เพื่อรอคอยวันที่วิทยาการก้ าวไกลขึ้น เพื่อที่จะช่วยฟื้นคืนชีพร่ างกายมนุษย์ได้อีกครั้ง
- สารเมแทบอไลท์ทุติยภูมิ (secondary metabolite) เป็น สารที่พืชได้มาจากการนำสารท ี่เป็นผลมาจากการสังเคราะห์ แสง เข้าสู่กระบวนการ ชีวสังเคราะห์ เพื่อสร้างสารชนิดต่างๆที่ม ีคุณสมบัติเฉพาะตัวขึ้นอีกท อดหนึ่ง
.......................... .......................... .....
…สดับ…
เสียงหวานใสของนกน้อยตัวจ้อ ยที่พากันจับกลุ่มร้องเพลงอ ยู่บนกิ่งไม้เทียมขนาดใหญ่ต ิดกับตัวตึก เอื้อนเอ่ยถ้อยคำเสนาะเพราะ พริ้ง ทักทายแสงแดดยามเช้าที่ดูเห มือนจะเจิดจ้ากว่าปกติ มันลอดผ่านช่องว่างระหว่างซ ี่หน้าต่างบานเก่าที่มุมห้อ ง ปลุกหญิงสาวให้ตื่นขึ้นจากก ารหลับใหล เธอหรี่ตามองไปรอบๆพร้อมๆกั บยันตัวขึ้นจากเดียงไม้ ที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดควบคู ่ไปกับเสียงเคาะตะหลิวจากห้ องข้างๆอาการปวดกล้ามเนื้อแทบจะกลา ยเป็นอาการที่เกิดขึ้นเป็นป กติ หลังจากประสบอุบัติเหตุ เธอก็ไม่สามารถขยับร่างกายไ ด้คล่องแคล่วอย่างเก่า แต่โชคยังดีที่อาการไม่ได้ม ีผลต่อการทำกิจวัตรประจำวัน สักเท่าไรนัก‘ธาร’ รุ่นพี่ที่รู้จักตั้งแต่สมั ยเรียน คอยดูแลเธออยู่เสมอ ความสัมพันธ์ของทั้งสองก้าว หน้า เกินกว่าที่เธอ จะคาดคิดไว้เสียอีก เขาฉลาด และอ่อนโยน แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้ วยความลับมากมาย .เมื่อลองเทียบกับครั้งที่เธ อยังเป็นเด็ก หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกเปลี ่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความรู้ ศาสตร์ต่างๆไม่ได้ถูกแยกออก จากกันอย่างที่เคยเป็น มันถูกรวม เชื่อมโยง และแตกแขนงเป็นอีกหลายสาขา เทคโนโลยี ผลประโยชน์ และเงินตรา แทบจะกลายเป็นสิ่งขับเคลื่อ นทุกสิ่งทุกอย่างแต่ละประเทศ แต่ละพื้นที่ มีความขัดแย้งที่ไม่มีทางหา ข้อแก้ไขได้ ผู้คนแบ่งพรรคแบ่งพวก แก่งแย่งชิงดี และห้ำหั่นกันมากเท่าที่โอก าสจะเอื้ออำนวย บ่อยครั้งที่เธอมักคิดว่า เธออาจไม่มีวันเข้าใจเรื่อง พวกนี้ได้เลย เช่นเดียวกันกับสิ่งมีชีวิต ในมิติที่ต่ำกว่า ไม่มีทางเข้าใจชีวิตในมิติท ี่สูงกว่า …รู้จัก…ข้าวต้ม ไข่เจียว และ ซีอิ๊วขาว ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยบน โต๊ะอาหาร ชายหนุ่มเดินตรงรี่มาช่วยพย ุง อย่างเคยชิน เธอนั่งลง ตักไข่เจียวใส่ชามข้าวต้มหอ มกรุ่นตรงหน้า และเริ่มเคี้ยวมันช้าๆ คิดเรื่องราวเรื่อยเปื่อย มองจากยอดตึกผ่านไปยังอีกยอ ดตึกที่เรียงรายอยู่เบื้องห น้า โลกนอกหน้าต่างดูนิ่งสงบ สายลมอาจเหนื่อยเกินกว่าจะพ ัดผ่านช่องว่างระหว่างตึกสู ง เพื่อปะทะกับบานหน้าต่างที่ ปิดสนิท รอรับลมเย็นฉ่ำจากเครื่องปร ับอากาศราคาแพง“วันนี้น่าจะร้อนกว่าเมื่อว าน…” เสียงทุ้มของเขาปลุกเธอให้ต ื่นจากภวังค์ เขากดรีโมทเปิดเครื่องปรับอ ากาศ ก่อนจะเริ่มมาสนใจกับข้าวต้ มตรงหน้า เธอยกน้ำขึ้นจิบ ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดต่อ“อยากออกไปไหนหรือเปล่า พี่อาจจะไปเป็นเพื่อนได้ก่อ นไปทำงาน หรือว่าอยากจะแค่พก จีที ไป” เขาเหยาะ ซีอิ้วขาวลงบนชิ้นไข่เจียวใ นชามข้าวต้ม ก่อนจะตักมันขึ้นเป่าเพื่อใ ห้เย็นลง แผลเป็นที่ข้อมือของเขาดูนู นขึ้นหากแต่ไม่ชัดเจนเท่าเว ลาอยู่ในแสงสลัว เขาดูจะสนใจ และห่วงใยเธอเป็นพิเศษในบาง ครั้งแต่บางครั้งก็เหมือนเป็นการ เฝ้าสังเกตอะไรบางอย่างจากเ ธอ โดยมักจะใช้ ‘จีที’ ซึ่งเป็นชื่อ หุ่นยนต์รุ่น GT201 มันสามารถแจ้งเหตุไปที่โรงพ ยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือ แจ้งเขาได้ในทันทีเมื่อมีสิ ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอมันเป็นหุ่นยนต์รุ่นแรกๆที่ เขาเริ่มเขียนโปรแกรม และเข้าร่วมทีมวิจัย กับสถาบันมาโคร องค์กรเกือบลับ ยักษ์ใหญ่ที่ทุ่มให้ทุนวิจั ยกับนักวิทยาศาสตร์หลากลายส าขา จนเป็นที่รู้จักกันดี ธารเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือมักจะเรียกกันว่า เอไอ (AI :Artificial Intelligence) ที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง งานของเขาเป็นที่ยอมรับ และได้ตีพิมพ์ในวารสารชื่อด ัง มากพอๆกับความลับที่เขายังไ ม่พร้อมเปิดเผยเกี่ยวกับศาส ตร์ด้านนี้…“ไม่หรอก อากาศร้อน หนูยังไม่อยากออกไปไหน อยากอยู่อ่านงาน มากกว่าค่ะ” เธอแอบมองเค้าจากหางตาขณะก้ มมองชามข้าวต้ม แปลกที่แม้เธอจะพูดเพียงประ โยคธรรมดา ก็สามารถทำให้เขาหยุดและตั้ งใจฟัง เธอเงยหน้าขึ้นแล้วเริ่มพูด ต่อ “ดูเหมือนช่วงนี้ พี่กำลังยุ่งๆอยู่กับ ทัวริ่งเทส (Turing test) ไม่ใช่เหรอคะ…” เขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ
“ พี่ไปทำงานเถอะค่ะ หนูอยู่ได้ คิดว่าพรุ่งนี้ อยากกลับไปทำงานแล้วล่ะ” เขาหยิบน้ำขึ้นดื่ม ดึงกระดาษเช็ดปากจากกล่อง
“เจอกันพรุ่งนี้นะคะ” เขาใช้กระดาษเช็ดปาก หลุบตาลงต่ำ กำกระดาษเช็ดปากไว้ ซ้อนจากชาม แก้วน้ำ ก่อนจะยกมันขึ้น
“จ้ะ” เขาเดินเข้าห้องครัวไป ส่วนเธอเดินเขาห้องน้ำและปิ ดประตู …ความลับ…ประตูห้องทำงานสีขาวสะอาดตา ถูกเปิดออก เธอนั่งลงที่โต๊ะทำงานที่เต ็มไปด้วยการ์ดแสดงความยินดี ที่ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง โต๊ะทำงานสีดำ ดอกไม้สีแดง และหุ่นยนต์แมงมุมยักษ์จีที ซึ่งมีตาเป็นกระดุมสีทอง ทั้งสองข้าง“ติ๊ด ติ๊ด” จอแอลซีดีจอเล็กกระพริบตัวอ ักษรสีฟ้า ‘มีอภิปรายผล 9 โมง’ จริงสิ! ทุกๆครั้งที่มีผลการทดลองออ กมา ทีมแล็บจะต้องมีการอภิปรายผ ลที่พบในแต่ละส่วน เพื่อออกแบบการทดลอง และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อประสิทธิภาพของการทดลอ ง เธอหันมองนาฬิกา ตอนนี้แปดโมง เธอยังมีเวลาอ่านเอกสารอีกห นึ่งชั่วโมง เธอเปิดแฟ้มหน้าขึ้นอ่านหลั งหลังจากส่งข้อความหาธาร ‘ค่อยคุยกันนะคะ เจอกันมื้อค่ำ’หลังจากที่สถาบันมาโครให้ทุ นวิจัย ครั้งที่เธอยังทำวิทยานิพนธ ์ หลังจากเรียนจบ เธอก็ทำงานให้กับองค์กรอย่า งเต็มตัว เริ่มแรก เธอรู้เพียงแค่เป็นองค์กรที ่มีความเกี่ยวข้องทางใดทางห นึ่งกับสถาบันไครโอนิกส์ (Cryonics Institute) และด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างมาโครเริ่มขยับขยายจุดประสง ค์ขององค์กร จนมีนักวิทยาศาสตร์ และสถาบันย่อยๆในสังกัดอีกม ากมาย จนแทบจะไม่มีทีท่าว่าจะล้มล งได้เลย งานที่สำคัญของเธอ คือการศึกษาการตอบสนองของต้ นโฮป(hope) ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ ยูฟอเบียเซเอ(Euphorbiaceae ) ต่อสภาวะเครียด (stress)หรือสภาวะที่ไม่เหม าะสม ต้นโฮป จะมีการสร้างสารเมแทบอไลท์ท ุติยภูมิ (secondary metabolite) ขึ้นซึ่งคุณสมบัติของสาร เมแทบอไลท์ทุติยภูมินี่เอง ที่มาโครยอมทุ่มทุนสนับสนุน งานวิจัย เพื่อให้ได้สารใหม่ที่มีคุณ สมบัติตามที่องค์กรต้องการ ทันทีที่สมาชิกในทีมแล็บคนส ุดท้ายเดินเข้าห้องประชุมพร ้อมกดล็อกประตู จอสีเหลี่ยมขนาดใหญ่ฉายภาพ เมล็ดโฮป ต้นอ่อนของต้นโฮป ราก และของเหลวสีน้ำตาลเข้มในหล อดทดลอง สมาชิกหญิงสวมแว่นตาสีขาวเอ ่ยขึ้นขณะชี้อุปกรณ์ยิ่งเลเ ซอร์สำหรับทำเครื่องหมายบนจ อฉายภาพ แล้วเธอก็เริ่มพูด“จากการทดสอบผลต่อสภาวะเครี ยด ในต้นกล้าโฮป โดยใช้คลื่นเสียงที่สูงเกิน กว่าระดับที่เหมาะสม พบว่าต้นกล้าของโฮปมีการตอบ สนองโดยการสร้างสารประกอบฟี นอลิกขึ้นหลายชนิด ดังเช่นที่เคยพบจากการทดสอบ ด้วยสภาวะขาดน้ำ นะคะ หากแต่มีสารชนิดหนึ่งที่มีป ริมาณมาก และไม่เคยพบในการทดลองอื่นเ ลยคือ กรดพานิก (Panic acid) ค่ะ” เจ้าของแว่นตาสีขาวเว้นวรรค ก่อนที่เสียงหนึ่งจะแทรกขึ้ นมา“นั่นหมาย ถึงเราก็พบสารชนิดใหม่จากกา รทดสอบด้วยคลื่นเสียง… ถูกต้องไหมคะ…แสดงว่ามันมีค ุณสมบัติแตกต่างจากชนิดอื่น ๆ?”“ใช่ค่ะ และพบว่าเมื่อสกัดแยกสารชนิ ดนี้ แล้วทดสอบในการเจริญเติบโตข องพืชใบเลี้ยงคู่ และใบเลี้ยงเดี่ยวพบว่า มีการยับยั้งการเจริญเติบโต ของพืชทดสอบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในความเข้มข้นเพียง 50 ppm และเมื่อมีการทดสอบกับหนูตะ เภา ก็พบว่า…หนูตะเภามีการเต้นข องหัวใจผิดปกติ พฤติกรรมก้าวร้าว สูงกว่าการทดสอบด้วยยาแอมเฟ ตามีน…และตาย…ในเวลาต่อมาค่ ะ”“และ เราก็พบว่า ไม่มีการค้นพบสารชนิดนี้ตั้ งแต่สมัยสงครามโรคครั้งที่ส อง หลังจากมีการใช้สารนี้ในการ ใช้ทรมานนักโทษ และใช้เป็นส่วนประกอบของระเ บิดค่ะ”เริ่มมีเสียงพูดคุยถกเถียงเ บาๆเกิดขึ้นในห้องประชุม ก่อนที่จะเงียบลง เสมือนรอให้ใครบางคนพูดบางส ิ่งบางอย่างขึ้น“ทราบผลตั้งแต่เมื่อไหร่คะ… ยังไม่ได้แจ้งไปที่ศูนย์กลา งใช่ไหมคะ” เธอค่อยๆพูดเพื่อระงับอารมณ ์ที่กำลังประทุขึ้นมา สิ่งที่เธอกลัว กำลังจะเกิดขึ้นหรือเปล่า“สองสัปดาห์ที่แล้วค่ะ ยังไม่ได้แจ้ง แต่คาดว่าน่าจะรู้เป็นนัยๆแ ล้ว เพียงแค่รอให้คุณส่งผลและตั วอย่างไป” ‘สองสัปดาห์…ที่แล้ว อย่างนั้นเหรอ!’ ห้องประชุมเริ่มเงียบอีกครั ้ง และเธอก็คิดว่าบางที มันอาจดีแล้ว ถ้าให้ความเงียบได้พูดคุยกั นบ้าง …เร้น…เสียงภาชนะกระทบกัน ทำลายความเงียบ เมื่อธารรวบช้อนหลังรับประท านอาหารค่ำเสร็จ เธอและเขาต่างไม่ได้เอื้อนเ อ่ยคำพูดใดตลอดเวลาที่รับปร ะทานอาหารด้วยกัน
“พี่คิดว่าการที่มาโครสนับส นุนไครโอนิกส์ เพราะเป็นไปตามจุดประสงค์จร ิงๆของมันหรือเปล่า แน่ใจแค่ไหนว่าพวกเขาจะให้ร ่างกายเหล่านั้นฟื้นขึ้นมาไ ด้ โดยไม่มีอะไรตอบแทน ต่อองค์กรเลย ในเมื่อเขาอยากได้อาวุธสำหร ับสงครามขนาดส่งคนมา ‘สอดแนม’” ธารเงียบ หากแต่ยังคงสบตาเธออยู่ เธอยกขาขึ้นไขว่ห้าง แอนหลังพิงพนักเก้าอี้ และวางแขนลงบนเบาะวางแขน“พี่คิดว่าการที่หนูประสบอุ บัติเหตุพร้อมๆกับการค้นพบส ารที่มีความสำคัญกับการก่อส งคราม มันบังเอิญอย่างนั้นเหรอ…หน ูไม่มั่นใจเรื่องนี้จนกระทั ่ง ทางศูนย์รู้ว่าเราพบสารใหม่ ก่อนที่เราจะแจ้งไปซะอีก และทางศูนย์ก็เร่งให้เราส่ง ตัวอย่างสารไป โดยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น…พี่ค ิดว่ามันควรคิดไปในทางไหน?”เธอยังคงรักษาระดับเสียงให้ คงที่ไว้ได้ หาแต่ ไม่สามารถควบคุมมืออันสั่นเ ทาขณะวางดอกไม้ปลอมสีแดง และหุ่นยนต์จีทีลงบนโต๊ะ“กระดุมสีทอง ทำหน้าที่ของมันได้ดี” เสียงของเธอเริ่มสั่นเล็กน้ อย เขายกมือลูบใบหน้า ก่อนจะเริ่มพูดบ้าง“แล้วเราจะต้องปิดบังอะไรใน เมื่อก็ทำงานให้มาโครอยู่แล ้ว ถ้าไม่อยากให้มาโครรู้เรื่อ งพวกนี้ ก็ควรจะ ถอนตัวไปนานแล้ว..นี่ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาเกี ่ยวข้องกับความดีเลว แต่มันคือความอยู่รอด และผลประโยชน์” เขากวาดดอกไม้และหุ่นยนต์จี ที ลงไปกองกับพื้น หากแต่เสียงยังคงราบเรียบอย ู่“ พี่ว่าเราควรโตได้แล้ว โลกเราไม่ได้สวยงามเหรอ ปลาใหญ่ก็ต้องกินปลาเล็กเสม อไป คนที่แข็งแกร่งว่า ก็ต้องชนะคนที่อ่อนแอ” เธอเบิกตากว้างก่อนจะเริ่มต อบกลับด้วยเสียงที่ดังขึ้น“หนูไม่เคยมั่นใจจุดประสงค์ ของมาโคร จนถึงวันนี้ มาโครก็แค่ทาสของพวกนักการเ มือง พวกเราก็เป็นแค่หมาก…และหนู ก็คิดไม่ถึงว่าพี่จะอยากจะเ ป็น-แค่-หมาก-ตัว-นึง” เธอเน้นคำ“รู้อะไรมั้ย บางครั้ง เราต้องยอมเป็นหมาก เพื่อที่เราจะได้รู้จักเกม” เขาเริ่มสนใจแก้วน้ำ ก่อนที่จะยกมันขึ้น“งั้นเหรอ งั้นพี่ก็ควรจะรู้ไว้ว่าเมื ่อเราเป็นหมากแล้ว จะไม่มีใครปล่อยให้เราเดินเ กม!” เธอเริ่มตะโกน“รู้อะไรมั้ย เราสามารถทำสิ่งที่ดีกว่าได ้ แต่มันอาจดูยากลำบาก เพราะไม่มีใครเหลือจะให้ทำอ ีกแล้ว มันยากเกินไปที่จะไม่คิดถึง ตัวเอง และผลประโยชน์อันหอมหวานที่ คอยอยู่” เธอมองเขาและเริ่มชะงัก เสียงของเธอเบาลง และดูเหมือนคิดอะไรขึ้นได้ “ดึกแล้ว คืนนี้นอนนี่ไหม…” เขาวางแก้วน้ำ …เลือนลาง…‘ปัจจุบันเราสามารถสร้าง AI ที่มีระดับความคิดใกล้เคียง กับมนุษย์ได้แล้ว นอกจากนี้การถ่ายโอนความคิด และความทรงจำโดยมีส่วนสำคัญ คือคลื่นสมอง สู่AI ได้ ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยที่เป็ นอัมพาต หรือเสียชีวิตโดยที่สมองยัง ไม่ได้มีการหยุดทำงาน แต่ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า AI ที่มีการถ่ายโอนความทรงจำ จะสามารถมีระบบความคิดเช่นเ ดียวกับเจ้าของสมองต้นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ยังต้องผ่านการทดสอบ อย่างแน่นอนจากสถาบันก่อนคร ับ’เธอย้อนดูเทปการสัมภาษณ์ที่ เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือชื ่อดังเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เธ อเกิดอุบัติเหตุ ก่อนที่ยกโทรศัพท์มือถือกดส ่งข้อความ ‘เที่ยงเจอกันที่อาคาร G ห้องไครโอนิก’เขาเปิดประตูเข้าสู่ห้องที่ เต็มไปด้วยถังทรงกระบอกขนาด ใหญ่สีเงินตั้งเรียงรายอยู่ ภายในห้อง วัตถุสีดำถูกซ่อนไว้ในเสื้อ เธอเดินเข้ามาหาเขา ก่อนยื่นคีย์การ์ดห้องข้อมู ลให้ คิดแล้วไม่มีผิด เธอแอบหยิบไปเมื่อคืนแน่ๆ“ทัวริ่งเทส ของAI พี่คงจะผ่านฉลุยเลยสิจริงมั ้ย พี่สอบมันผ่านตั้งชาติกว่าแ ล้ว!” เธอโยนนิตยสารให้เขา พร้อมๆกับตะโกนเสียงดัง“หรือพี่อยากจะทดลองระบบโอน ความคิดอะไรของพี่อีกสินะ แล้วไง ฉันสอบผ่านมั้ย?.. อ๋อสิ่งที่พี่ต้องการไม่ใช่ ระบบความคิด แต่คือความคิดนี่จริงมั้ย ความคิดของฉันน่ะ” “แล้วสิ่งที่พี่ทำคืออะไร ไครโอนิกส์ฉัน เพื่อโอนความคิดมาAI แล้วโอนจาก AI ไปที่ศพฉันงั้นเหรอ มันจะมากไปมั้ย แล้วตกลงฉันคือตัวอะไร ใช่คนอยู่มั้ย” เขาก้มหน้า และยังคงเงียบอยู่“…ฉันตายไปแล้ว…” เสียงของเธอแผ่วเบาราวกระซิ บ . “พี่ฆ่าฉันหรือเปล่า…” “รู้อะไรมั้ย เธอก็ยังเป็นเธอ ไม่ว่าอยู่ในรูปแบบไหน เธอก็ยังเหมือนเดิม พี่ไม่ได้ทำลายเธอ ไม่ได้ทดสอบเธอ แต่ทำให้เธอมีการพัฒนาขึ้น”“เหรอ งั้นพี่ก็ทำสำเร็จ แล้วได้รายงานศูนย์กลางมั้ย ว่า AI ของพี่สำเร็จ ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมเป็น ปกติ ระหว่างคน กับAI แทบจะไม่มีความแตกต่างกัน มาโครจะได้สร้างกองทับAI ขึ้นมาสักล้านตัว แล้วโอนความคิดคนชั่วๆไปคนล ะหมื่นก๊อปปี้ เลยดีมั้ย!”ถึงตอนนี้ เธอไม่สามารถควบคุมร่างกายข องเธอได้อีกแล้ว ไม่สิ นี่ไม่ใช่ร่างกายของเธอ เขาส่ายหน้า แล้วเดินมาจับมือเธอ เธอพยายามมองหารอยแผลเป็นที ่ข้อมือของเขา“ อย่างนั้น มนุษย์ก็จะไม่มีความสำคัญอะ ไร…” เขากระซิบ พยายามล้วงหยิบวัตถุสีดำจาก เสื้อ“โคร่ม!” ร่างของชายหญิงทั้งสองร่วงล งไปกองกับพื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงสัญญาณ เตือน ดังขึ้น“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด…” กระดุมสีทองกระจายอยู่ข้างๆ ศีรษะของพวกเขา ปืนสีดำเป็นเงากระเด็นไปยัง มุมห้อง …เงียบงัน… .ธารนั่งดูกล้องวงจรปิดอยู่ใ นห้องควบคุมก่อนตัดสินใจกดป ุ่ม ขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาแป้นพ ิมพ์‘ปิดโปรแกรม’ จอคอมพิวเตอร์ ค่อยๆหรี่แสงลง นัยน์ตาว่างเปล่าของเขามองไ ปยังกระดาษโน้ตชิ้นน้อยใหญ่ บนผนัง คำ 6 คำ กระดาษ 6 ชิ้น ในขณะที่มือกำรอบแผลเป็นที่ ข้อมือ มันดูชัดเจนขึ้นในแสงสลัว .................... The Endปล. เรื่องสั้นเรื่องนี้ เคยตีพิมพ์ใน มติชนสุดสัปดาห์ 1 กรกฎาคม 2016 มีเผยแพร่ในเพจของมติชนเช่น เดียวกัน
***การเขียนอะไรสักอย่างนึง ต้องใช้แรงกายแรงใจเยอะมาก ฝากติดตามด้วยน้าาา เราจะได้มีกำลังใจเขียนต่อ...ร่วมพูดคุย และกดไลค์เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนได้ในเพจ
https://www.facebook.com/PanchaliWriter
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น